วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560

การเตรียมประวัติวัคซีน

      มาถึงอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญที่จะต้องส่งไปพร้อมใบสมัคร คือประวัติวัคซีน อันนี้คุณแม่ขอบอกเลยว่าสุดๆๆ ดีที่ว่าที่บ้านมีเก็บสมุดบันทึกสุขภาพลูกตอนแรกเกิดไว้ทุกคน ซึ่งจะเป็นที่ลงบันทึกตั้งแต่ตอนคลอด วัคซีนพื้นฐานคือคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก (DTP), วัคซีนบีซีจี ป้องกันวัณโรค (BCG) , โปลิโอ(Polio) ,ไวรัสตับ เอ/บี (HIP A,B) ,ไข้สมองอักเสบ,หัด/หัดเยอรมัน/คางทูม ฯลฯ เราก็คิดว่าเราเก็บครบที่ไหนได้ไม่ครบตามจำนวนค่ะ


     เอาล่ะสิมันขาดช่วงชั้นประถม คือไม่มีในสมุดเลย ก็จะเป็นวัคซีนบาดทะยัก ,หัด/คางทูม/หัดเยอรมัน, ไวรัสตับอักเสบ บี เพราะต้องมีกระตุ้นช่วง ป.6 เอาสิไม่มีในเล่มสุขภาพ เสียเงินฉีดเพิ่มสิคะ แต่ถ้าฉีดแล้วไม่มีประวัติ ฉีดซ้ำจะเยอะเกินไหม พอดีไปปรึกษาคุณหมอที่เคยทำคลอดให้ คุณหมอใจดีมาก และมาดูแลศูนย์สุขภาพเมืองพอดี คุณหมอให้ติดต่อพยาบาลที่ดูแลเรื่องวัคซีน รร. พี่พยาบาลบอกว่าทุกที่มีไปฉีดที่ รร.นะ ลูกจบกี่ปีแล้ว ลองเช็คประวัติที่ศูนย์ฯก่อนไหม เผื่อเจอประวัติ เป็นงานสิคะ 2-3 ปีผ่านไป เสียเงินดีกว่าไหม จะลำบากเจ้าหน้าที่ แต่เอะใจว่าอืม ฉีดที่โรงเรียน ก็ไปถามโรงเรียนดีไหม คุณแม่ก็ไปถามสิคะ รออะไร ไปถามครูพยาบาลเลยค่ะ 555 ได้เรื่องค่ะ ครูบอกว่ามีสมุดระเบียนสุขภาพนะ เล่มสีเหลือง ลองไปถามครูประจำชั้นสิ ก็ตามนั้นค่ะไปถามครูประจำชั้นบอกแจกไปตอนจบกับพวกสมุดพก อ้าวรู้ล่ะไปค้นที่บ้านค่ะ แต่.....ที่บ้านไม่มี เล่มสีเหลืองดันหาย แต่เจอของน้องชายมีและมีประวัติฉีดกนะตุ้น ที่ต้องการด้วย แล้วของพี่ชายล่ะ หายไปไหน ย้อนกลับไปถามครูประจำชั้น แจกหมดนะ ถ้าไม่มีก็ไม่รู้ว่าครูช่วงชั้นประถมต้น  ป.3  ส่งขึ้นมาไหม ( คือมันจะมีช่วงกระตุ้น ป.1 กับ ป.6 ค่ะ )ไปถามเลยค่ะ ครู ป.1 (ปล.ตอนนี้ลูก ม.3 คิดดูว่านานไหมคะ ครูจะจำได้ไหมหนอ ) ครูป.1 บอกส่ง เอาส่งก็ส่งจะไปเถียงครูทำไม ไป ป.3 ต่อ ส่งอีกเอกสารไม่มีตกค้างนะคะ  ส่่งก็ส่ง ไปต่อ ป.4 อ้าวส่งต่อไป ป.5 ,ป.5 ก็บอกส่งขึ้น ป.6  ความพยายามมีไหมตอบ มันจบแล้วค่ะ เสียเงินก็เสีย .............ตกลงว่าจะไปฉีดกระตุ้นก่อนนะ เดี๋ยวมีวัคซีนอื่นอีก  เช้าวันจันทร์ นั่งทำงานอยู่ มีสายเข้าครู ป.6 โทรมา คำแรก "ฮัลโหล คุณแม่ เจอสมุดระเบียนลูกชายล่ะนะ " ย้ำอีกครั้งหูไม่ดี เจอแล้วเหรอคะ ค่ะๆๆๆเดี๋ยวไปเอาที่โรงเรียนค่ะ ครูเล่าว่าค้นตู้เจอเล่มเหลืองอยู่กองหนึ่งดูชื่อเป็นห้องรุ่นลูกชายนี่แหละ ประมาณ 20 เล่ม ลืมใส่ซองให้พร้อมสมุดพก โอ้....สวรรค์ ไม่ต้องฉีดซ้ำซ้อน ขอบคุณจริงๆๆ ( ปล.เรื่องนี้สอนคุณแม่ว่าประวัติลูกที่ทาง รร.ส่งคืน ต้องเช็คให้ครบ )

     ยังค่ะไม่จบวัคซีนที่ทางอเมริกาบังคับเด็กต้องฉีด คือ กาฬหลังแอ่น Menacta ราคาแพงมาก 3,000 ขึ้น เช็คทุก รพ.ค่ะมีไหม เพราะไม่อยากไปกรุงเทพฯ ไม่มี แต่โชคดีว่า รพ.กรุงเทพฯ ที่มาเปิดสาขามีสต๊อกพอดี ก็พร้อมฉีดเลย , Test วัณโรค  แต่ปัญหามีอีกค่ะ ไวรัสตับอักเสบ A ต้องฉีด 2 เข็ม ในประวัติไม่มีเลยสักเข็ม  ถามคุณหมอๆบอกว่า ตับ A สมัยก่อนไม่บังคับฉีด และวัคซีนขาดตลาดมานานมาก ทุก รพ.ไม่มีหมด มีที่กรุงเทพฯ อีกแล้ว เอาอย่างไรดี ไปปรึกษาหมอเด็กที่รักษาอยู่ คุณหมอบอกวัคซีนขาดตลาด แต่ถ้าเข้าจะบอก เราก็แจ้งทางโครงการไปว่า ค้างไว้ก่อนนะคะ ประวัติฉีดเมื่อไหร่ก็ส่งเพิ่ม ประมาณ ตุลาคม  คุณหมอบอกวัคซีนเข้ามาแล้วก็ไปฉีด และต้องกระตุ้นอีกเข็มภายใน 6 เดือน คือประมาณ เมษายน ถึงจะส่งประวัติวัคซีนให้มูลนิธิอีกรอบ
     
      ประมาณปลายๆ ก.พ. พี่ที่โครงการโทรมาแจ้งว่าทางมูลนิธิ ISE ที่อเมริกา มีคอมเม้นท์ มาให้น้องฉีดกาฬหลังแอ่น กระตุ้นอีก 1 เข็ม เพราะน้องยังไม่ถึง 18 ปี ถ้า 18 ฉีดเข็มเดียว โอ้ 3,000 กว่า เข็ม 2 เข็มสองเราไม่ว่าแต่เข็มหนึ่งป้องกันได้ 5 ปี ทำไมต้องฉีด แล้วฉีดซ้ำจะมากเกินไปไหม แต่โครงการยืนยันให้ฉีด เพราะถ้าไปฉีดที่อเมริกา ก่อนเข้าเรียนในโรงเรียนจะแพงมาก  เอาสิก็ไปเช็คข้อมูลหลายๆหมอ ก็ยืนยันเข็มเดียวพอ ไปถามผู้ปกครองที่ได้อีกมูลนิธิ ICES ไม่มีคอมเม้นท์มา คุณแม่ก็พยายามหาข้อมูลทั้งที่อเมริกาและคุณหมอ คุณหมอเด็กบอกกระตุ้นได้ไม่อันตราย แต่แพง เพราะอเมริกาซีเรียสเรื่องพวกนี้มาก และอีกอย่างอเมริกากลัวเอาโรคไปปล่อย และอีกอย่างก็มีคนจากทั่วโลกไปอยู่ที่โน่น ซึ่งอาจจะแพร่เชื้อได้ เอาน่าเราลงทุนส่งลูกไปแลกเปลี่ยนไม่ใช่บาทสองบาท ฉีดให้ครบ เพราะถ้าไม่สบายที่โน่นเราจะเสียเยอะกว่า ทำตามคำแนะนำของมูลนิธิฯ และปรึกษาคุณหมออีกแรง เราเป็นพ่อแม่ก็สบายใจ

      สรุปแค่เรื่องวัคซีนก็ยาวมากค่ะ ฉะนั้นสมุดสุขภาพลูกสำคัญเก็บให้ครบ  ลูกเราไปอยู่ไกลบ้านฉีดไปเถอะค่ะ ป้องกัน เสียน้อยเสียมาก เสียยากเสียง่าย ลงทุนไปแล้วอีกนิดเพื่อความสบายใจทุกฝ่าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น